ปัจจุบันพวกเขากำลังถูกต่อต้านโดยนีโอฮีโร่ และถูกคุกคามโดยกลุ่ม The Organization
ผู้นำ: ไม่ทราบ
ศูนย์ใหญ่: เมือง A
ศัตรู: สลัดอวกาศดาร์กเมทเทอร์, กาโร่ว์, สมาคมมนุษย์ประหลาด, นีโอฮีโร่, อีเลเว่น, the organization
รูปลักษณ์
ห้องประชุมคณะผู้บริหาร |
ห้องประชุมสำหรับ S-Class |
ศูนย์ใหญ่สมาคมฮีโร่(ปัจจุบัน) |
ศูนย์ใหญ่สมาคมฮีโร่(อดีต) |
เรื่องราว
3 ปีก่อนเวลาเส้นเรื่องหลัก สมาคมฮีโร่ถูกก่อตั้งโดยมหาเศรษฐีอาโกนิ หลานของเขาช่วยไว้จากสิ่งมีชีวิตลึกลับโดยคนที่ผ่านทางมา. หลังจากได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ อาโกนิก็เกิดไอเดียในการจัดตั้งสำนักทะเบียนฮีโร่ และก่อตั้งสมาคมฮีโร่ขึ้นโดยใช้เงินทุนจากธุรกิจส่วนตัวและการบริจาคจากสาธารณะชนเมื่อสมาคมฮีโร่ถูกก่อตั้ง จึงมีขั้นตอนในการแบ่งลำดับชั้น จาก C ถึง A-Class และใช้ระบบที่คล้ายกันนี้กับมอนสเตอร์. ตัวอย่างเช่น หายนะระดับ อสูร ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนั้นมันถูกเรียกว่าเป็น "อสูร" แต่เพื่อให้ง่ายต่อการเรียก "สิ่งมีชีวิตลึกลับที่สามารถเอาชนะได้โดยกลุ่มฮีโร่ A-Class เท่านั้น"
การจัดตั้ง S-Class จึงเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่สมาคมฮีโร่ตระนักดีว่า ฮีโร่บางคนสามารถอาชนะมอนสเตอร์ได้อย่างเนื่อง ซึ่งฮีโร่อันดับต้นๆคนอื่นๆไม่สามารถเอาชนะได้. เพื่อปกป้องไม่ให้พรสวรรค์อันหายากนี้ถูกเก็บซ่อนไว้ พวกเขาจึงได้จัดตั้ง Class พิเศษนี้ขึ้น. Classใหม่นี้เชี่ยวชาญด้านความสามารถในการต่อสู้และได้รับการปฏิบัติในระดับเดียวกับกองกำลังฉุกเฉิน Class ใหม่นี้จึงเป็นที่รู้จักในชื่อ S-Class
อีกอย่างนึงคือการจับคู่ประเภทคู่ต่อสู้. ตัวอย่างให้เห้นหลักๆเลยคือ เมื่อ สายฟ้าเก็นจิ สู้กับ ไมโกะสายฟ้า และ มนุษย์ปลาหมอหน้าแมวไฟฟ้า. เนื่องจากพวกเขาเป็นคุณสมบัติไฟฟ้าเหมือนกัน ทำให้กระปองไฟฟ้าอาวุธหลักของเก็นจิ ไร้ประโยชน์
การแสดงที่เอื้อต่อความนิยมของเหล่าฮีโร่ หรือการลดถอนความนิยมของฮีโร่คนอื่นๆ เนื่องจากระบบการทำงานของระบบจัดดับฮีโร่นี้แล้ว และยังมีการเบียดเบียนลำดับความสำคัญของฮีโร่ และทำให้พวกเขามุ่งเน้นไปที่การรักษาอันดับของพวกเขามากกว่า แทนที่จะทำกิจกรรมของฮีโร่ที่กล้าหาญ.
นี่ยังรวมไปความไม่สมดุลของอำนาจในหมู่เจ้าหน้าที่สมาคมฮีโร่และบริการสาธารณะนั้นดูเหมือนจะเกิดขึ้นกับ McCoy ปฏิเสธที่จะส่งความช่วยเหลือไปต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเว้นแต่ตำรวจจะขอร้อง (มังงะตอนพิเศษเล่ม 7)
หลังจากเหตุการณ์ช่วงกาโร่ว์และสมาคมมนุษย์ องค์กรก็ตกลงสู่ภาวะย่ำแย่จากการถูกแทนที่โดยนีโอฮีโร่. สมาคมฮีโร่ยังพบว่าตนเองต้องเผชิญกับเรื่องอื่อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตมากมายอันเป็นกิจกรรมที่ผิดกฎหมายของเหล่าผู้ร่วมทุนบริจาคและเหล่าบรรดาเจ้าพนักงานตลอดจนความจริงที่ว่าพวกเขามักจะละเลยต่อการควบคุมฮีโร่ S-Class โดยเฉพาะทัตสึมากิ ในแง่ของผลกระทบจากหลักประกันในความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างการปฎิบัติงานฮีโร่. นอกจากนี้ จำนวนการต่อสู้ที่พ่ายแพ้ระหว่างฮีโร่และสิ่งมีชีวิตลึกลับสูงขึ้น จึงทำให้สาธารณชนสูญสิ้นความศรัทธาในความสามารถของสมาคมฮีโร่. สุดท้ายแล้วผู้คนบางส่วนก็ตระหนักได้ถึงด้านมืดของสมาคม ในแง่ของฮีโร่ที่ทำตัวเย่อหยิ่ง ไร้ความสามารถ และมีความรุนแรง ซึ่งตอนนี้เป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ขึ้นต่อองค์กรและสาธารณชนโดยรวม
เมื่อเร็วๆนี้ หน้ากากหวานได้เสนอโครงการผลิตฮีโร่ระดับสูงโดยมีไซตามะเป็นศูนย์กลาง ค่อยๆทำให้ไซตามะกลายเป็นที่สนใจต่อผู้บริหารของสมาคมฮีโร่. อย่างไรก็ตามสิ่งนี้กลับแตกสลายเมื่อ หน้ากากหวาน เปิดเผยว่าตัวเองเป็นมอนสเตอร์ต่อสาธารณชนเพื่อเอาชนะตัวตลกน่ารำคาญ.ตอนนี้สมาคมฮีโร่กำลังตกอยู่ในอันตรายยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากหน้ากากหวานซึ่งเป็นผู้จัดหากองทุนบริจาคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา ฮีโร่ระดับ A-Class และที่ปรึกษาระดับสูงสุดไม่ได้อยู่กับพวกเขาแล้ว. หลังจากนั้นซิทช์และเจ้าหน้าที่สวมแว่นก็พิจารณาถึงการล่มสลายของสมาคมฮีโร่ที่ค่อยๆกำลังเป็นไป
เจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่สมาคมฮีโร่เป็นคนที่ทำหน้าที่ส่งการแจ้งเตือนแก่สารธารณขน ไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร์ ภัยธรรมชาติ หรือวิกฤตกาลอื่นๆ
สมาคมฮีโร่เองยังมีสาขาติดอาวุธแยกจากฮีโร่. พวกเขาจะทำหน้าการปกป้องเจ้าหน้าที่สมาคมฮีโร่ ณ สำนักงานใหญ่ และปกป้องชายแดน โกสทาวน์ เมือง Z; ดั้งนั้น พวกเขาจะอยู่ในบทบาทของการสนับสนุนเป็นหลัก. พวกเขาค่อนข้างมีอุปกรณ์ที่ครบครัน สามารถเข้าถึงอาวุธยุทโธปกรณ์และพาหนะหุ่มเกราะ เช่นเดียวกับชุดเกราะ, ปินไรเฟิ่ลจู่โจมและเครื่องยิงระเปิด. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่สำนักงานใหญ่ส่วนใหญ่จะสวมชุดแบบนักธุรกิจและพกปืนแบบปกปิด
สำนักทะเบียนฮีโร่
สำนักทะเบียนฮีโร่เป็นฐานข้อมูลที่มีชื่อฮีโร่ที่ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการทุกคน. ใครก็ตามที่ไม่ได้ลงทะเบียนในสำนักทะเบียนฮีโร่ จะไม่ถือว่าเป็นฮีโร่ ด้วยเหตุนี้ มักจะถูกมองว่าเป็นพวกประหลาดที่หลงผิด ไม่ว่าพวกเขาช่วยโลกสักกี่ครั้งก็ตามการสอบเข้าฮีโร่
การที่จะกลายมาเป็นฮีโร่อย่างเป็นทางการของสมาคมฮีโร่ ผู้สมัครต้องผ่านการทดสอบให้ได้เสียก่อน. การสอบเข้าจะประกอบไปด้วยสองส่วน:- ทดสอบภาคปฎิบัติ - ส่วนของการสอบภาคปฎิบัตินั้นจะเป็นการทดสอบความสามารถทางกายภาพของผู้สมัค อันได้แก่ ความสมารถเฉพาะ, ปฎิกิริยาตอบสนอง และความแข็งแกร่งทางกายภาพ. ส่วนนี้ของการทดสอบนี้ที่ทราบนั้นมีได้แก่ กระโดดสลับข้างไปมา( 30 วินาที), วิ่ง 1500 เมตร, ยกน้ำหนัก และกระโดดสูง. การทดสอบฉบับอนิเมะจะมีการเพิ่มในส่วนของการตีตัวตุ่นและเครื่องวัดแรงต่อยเข้ามา.
- ทดสอบข้อเขียน - เนื้อหาที่แท้จริงของการทดสอบข้อเขียนไม่เป็นที่รู้จักในขณะนี้ แต่เจนอสว่าการทดสอบทั้งภาคปฎิบัติและข้อเขียนว่าเป็นเรื่อง "กล้วยๆ". เจนอสยังเอ๋ยปากอีกว่าการทดสอบข้อเขียนนั้น "ง่ายเกินกว่าจะเรียกว่าการทดสอบ..." การทดสอบข้อเขียนออกแบบมาเพื่อประเมิน "ความรู้สึกในความยุติธรรม" ของผู้สมัคร; พนักงานคนนึงยังให้การอีกว่ามันมีหมวดเรียงความอีกด้วย
สิ่งที่ตามมาหลังจากผ่านการสอบเข้า:
- เป็นฮีโร่ที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการโดยสมาคมฮีโร่
- ฮีโร่มีสิทธิ์ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินตามสัดส่วนของผลงานของฮีโร่ที่เขาหรือเธอได้ทำ.
- อันดับ "ความสามารถ" จะถูกกำหนดตามผลการสอบ (ดูได้จาก "Class" หัวข้อด้านล่าง)
- ฮีโร่จะมีสิทธิ์ได้รับการโหวตจากสาธารณชนในการจัดอันดับความนิยมของฮีโร่
เมื่อไต่เต้าไปถึง A-Class:
- ฮีโร่ A-Class ทุกคน จะต้องเป็นผู้จัดสัมมนาแนะแนวแก่ฮีโร่ใหม่หลังจากที่พวกเขาผ่านการจดทะเบียน เช่นเดียวกับที่ สเน็ก แนะแนวให้กับไซตามะและเจนอส.
รายได้
สมาคมฮีโร่ทำเงินเพื่อดำรงชีวิตด้วยการบริจาคจากประชาชนทั่วประเทศเพื่อเป็นเกียรติแก่การปกป้องพวกเขาจากสิ่งมีชีวิตลึกลับและภัยคุกคามอื่นๆ. พวกเขายังได้รับเงินผ่านการระดมทุนส่วนตัวจากหมาเศรษฐี(เช่น อาโกนิ และ นารินกิ) และองค์กรธุรกิจที่ให้เงินทุนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างชื่อเสียงที่ดีและสร้างการประชาสัมพันธ์เชิงบวก. อย่างหลังก็เป็นแหล่งรายได้หลักของสมาคมฮีโร่เช่นกัน
จากคำบอกเล่าของ จักรพรรดิ์ ผู้บริหารบางคนทำเงินด้วยการค้าขายสิ่งมีชีวิตลึกลับอย่างผิดกฎหมาย ทั้งในรูปของสัตว์เลี้ยงและการแสดงศิลปะ
Class
ตามเกณฑ์ต่างๆ ฮีโร่ถูกแบ่งออกเป็นสี่ Class ที่แตกต่างกัน. โดย C-Class นั้นจะถูกจัดให้เป็นฮีโร่ที่อ่อนแอที่สุด ในขณะที่ S-Class ถูกจัดให้เป็นฮีโร่ที่แข็งแกร่งที่สุด:
- ฮีโร่ S-Class จำนวนทั้งสิ้น 17 คน
- ฮีโร่ A-Class จำนวนทั้งสิ้น 38 คน
- ฮีโร่ B-Class จำนวนทั้งสิ้น 101 คนฺ
- ฮีโร่ C-Class จำนวนทั้งสิ้น 390 คน
ดังนั้นพวกเขาจึงมีฮีโร่ด้วยกันทั้งหมด 546 คน. เพื่อที่จะเลื่อนอันดับชั้น ฮีโร่คนนั้นต้องอยู่ในอันดับ 1 ของอันชั้นปัจจุบันที่พวกเขาอยู่ ซึ่งจุดนี้พวกเขาสามารถเลือกได้ว่าจะอยู่ในอันดับสูงสุดของชั้นที่พวกเขาอยู่ต่อ หรือเลื่อนขั้นและเริ่มจากล่างสุดของชั้นถัดไป. ในบางกรณี ฮีโร่สามารถถูกจัดให้อยู่ในชั้นที่สูงกว่าได้โดยตรง หากคะแนนในการสอบเข้าสูงพอ. ในบางกรณีที่หาได้ยากยิ่ง เช่นคิงและเจนอส สามารถจัดลงใน S-Class ได้โดยตรง หากมีประวัติการปราบปรามภัยคุมคามที่เป็นอันตรายมาก่อน. เพื่อจะเพิ่มอันดับ คะแนนจะถูกจัดสรรตามความสำเร็จของฮีโร่คนนั้น. เกณฑ์สำหรับการทำงานของระบบนั้นส่วนใหญ่ไม่ทราบแน่ชัด แต่มันประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่ความแข็งแกร่งในการต่อสู้, การปราบปรามมอนสเตอร์และอาชญากร, การมีส่วนร่วมต่อสังคม, ภาพลักษณ์ทางสังคม และอื่นๆ. การจัดการกับภัยคุกคามระดับภัยพิบัติที่สูงขึ้นจะทำให้อันดับคะแนนฮีโร่มีมากขึ้น. เจ้าหน้าที่ประเมินของสมาคมฮีโร่จะพิจารณาและกำหนดจำนวนคะแนนที่ฮีโร่แต่ละตัวจะได้รับสำหรับความสำเร็จดังกล่าว โดยหน้ากากหวานเป็นหนึ่งในสมาชิกเหล่านั้น. หากฮีโร่ C-Class คนใดก็ตามมิได้ทำผลงานใดๆเลยใน 1 สัปดาห์ พวกเขาจะถูกถอดออกจากทะเบียนฮีโร่.
วัฒนธรรมในหมู่ฮีโร่
ระบบการจัดอันดับของสมาคมฮีโร่ได้สร้างวัฒนธรรมการแข่งขันและบางครั้งก็เป็นปรปักษ์กัน. เพื่อรักษาอันดับของพวกเขา. การสร้างกลุ่มต่างๆ ได้ถูกตั้งขึ้นภายในสมาคมฮีโร่ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการภัยคุกคามไปยังฮีโร่หลายคนและอันดับของพวกเขาทั้งหมดก็เพิ่มขึ้นด้วย. กลุ่มที่โดดเด่นที่สุดคือ กลุ่มพายุน้ำแข็ง(หรือกลุ่มฟุบูกิ) นำโดยฟุบูกิ. พวกเขาส่วนใหญ่ครองอยู่ในตำแหล่ง B-Class และพยายามขัดขวางฮีโร่ที่ทำงานสันโดษไม่ให้ขึ้นไปยังจุดสูง ไมว่าจะด้วยวิธีการที่รุนแรงหรือการชักชวน. พวกเขาเชี่ยวชาญในหน้าที่ฮีโร่ที่มีขนาดเล็กแต่สม่ำเสมอเพื่อรักษาตำแหน่งของพวกเขา. อีกกลุ่มหนึ่งคือ C-Class Hero Alliance ซึ่งสร้างขึ้นโดยฮีโร่ C-Class ซึ่งมักจะทำงานร่วมกันเพื่อดำเนินกิจกรรมฮีโร่ของพวกเขาเนื่องจากขาดประสิทธิภาพส่วนบุคคล. กองทัพแท๊งท็อป(หรือครอบครัวแท๊งท็อป) นำโดยแท็งท็อปมาสเตอร์ เป็นอีกกลุ่มที่มีสมาชิกข้ามอันดับฮีโร่ปะปนกันไป. อาตอมิกซามูไรเองก็มีกลุ่มขนาดโดยมีลูกศิษย์ของเขาเป็นผู้ติดตาม. กลุ่มพี่น้องหน้าบึ้ง ก็เป็นอีกกลุ่มที่มีสมาชิกข้ามอันดับฮีโร่ปะปนกันไป. หน้ากากหวานจะเป็นกรณีที่ไม่ปกติ ซึ่งเขาสนใจเกี่ยวกับการสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกกับพลเรือนที่รักและเจ้าหน้าที่สมาคมฮีโร่มากกว่าที่เขาทำกับฮีโร่คนอื่นๆ ซึ่งทำให้เขามีสิทธิพิเศษบางอย่างที่ฮีโร่คนอื่นไม่มี.ไซตามะเองยังสร้างกลุ่มของตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากผู้คนต่างสนใจเขาอันเนื่องจากพลังอันเหลือเชื่อของเขา.
อันดับสมาคมฮีโร่ถูกรบกวนโดยระบบราชการ(ระดับชั้นความสำคัญ) แม้ว่าฮีโร่จะเห็นการแสดงที่น่าประทับใจ แต่อันดับของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นช้ากว่าหากพวกเขาเริ่มต้นที่อันดับต่ำ เนื่องจากระบบการให้คะแนนที่มีข้อบกพร่องของสมาคมฮีโร่. กรณีที่น่าสังเกตแสดงให้เห็นว่าผู้คนเห็นฮีโร่ระดับต่ำ (อย่างไซตามะ) เอาชนะมอนสเตอร์ที่มีระดับหายนะจากอสูรไปจนถึงมังกร. มันจึงเป็นการบอกใบ้ได้ว่าระบบราชการของสมาคมฮีโร่เป็นสาเหตุที่ไซตามะก้าวหน้าช้าในการไต่อันดับ แม้จะแสดงพลังที่แข็งแกร่งอย่างอุกอาจ เช่น การสังหารราชาทะเลลึกด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว หรือทำลายอุกกาบาตด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว. หลักฐานที่เห็นได้ชัดเจนสำหรับข้อเท็จจริงนี้คือ แม้ว่าไซตามะจะทำลายสถิติทั้งหมดในการตรวจร่างกาย แต่ขอบเขตขนาดใหญ่ เขาก็ยังถูกจัดให้อยู่ท้ายสุดของ C-Class สาเหตุหลักมาจากผลการสอบข้อเขียนที่ย่ำแย่ แม้ว่าข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้รับผิดชอบการสอบเข้าชมเชยว่าเขามีความแข็งแกร่งดุจเทพเจ้าหลังจากตรวจสอบอุปกรณ์ทดสอบทั้งหมดที่ไซตามะได้ทดสอบไปได้รับความเสียหาย
อีกอย่างนึงคือการจับคู่ประเภทคู่ต่อสู้. ตัวอย่างให้เห้นหลักๆเลยคือ เมื่อ สายฟ้าเก็นจิ สู้กับ ไมโกะสายฟ้า และ มนุษย์ปลาหมอหน้าแมวไฟฟ้า. เนื่องจากพวกเขาเป็นคุณสมบัติไฟฟ้าเหมือนกัน ทำให้กระปองไฟฟ้าอาวุธหลักของเก็นจิ ไร้ประโยชน์
ในแง่ของความไม่เป็นธรรมตามที่ เดธเก็ตลิ่ง กล่าวถึง ระบบ Class ของสมาคมฮีโร่นั้นไม่ยุติธรรมต่อฮีโร่ที่อยู่ระดับต่ำอย่างฉาวโฉ่ เนื่องจากฮีโร่ S-Class ส่วนใหญ่เป็นเพียงคนเดียวก็ได้รับการดูแลเอาใจใส่และสิทธิพิเศษที่ดีที่สุดในองค์กร ตั้งแต่การที่มีเงินเดือนที่สูงขึ้น การสนับสนุนทางกายภาพตลอดจนถึงสิ่งพิมพ์สำหรับกิจกรรมของพวกเขาสู่สาธารณะ. ผลคือ ไม่ว่าฮีโร่ที่อันดับต่ำๆต่อให้พยายามเพียงใดและประสบผลสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ พวกเขาก็ดูเหมือนจะถูกเมินเฉยจากสาธารณชนและสมาคมฮีโร่ทั้งหมด. พวกเขายังไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากสมาคมให้ไต่อันดับหรือถูกละเลยจากสาธารณชนเนื่องจากขาดการตีแผ่การกระทำของพวกเขา เนื่องจากสมาคมฮีโร่ต้องการรักษาสมดุลของอันดับไว้ตลอดจนความจริงที่ว่าประชนเองให้คนสนใจที่อันดับไม่ใช่พลังที่แท้จริงของปัจเจกบุคคล แบบในกรณีของไซตามะเป็นตัวอย่าง. เป็นผลให้ฮีโร่ที่ไม่ใช่ S-Class เช่นฮีโร่ A-Class, B-Class และ C-Class บางครั้งต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากทั้งสาธารณะและสมาคมฮีโร่ด้วยการทำสิ่งที่น่าทึ่ง. ตัวอย่างที่ดีอีกอย่างนึงคือการปฎิบัติการเพื่อหลอกล่อกาโร่ว์ของเดธเก็ตลิ่ง เนื่องจากหากพวกเขาสามารถจับมอนสเตอร์ที่เอาชนะฮีโร่ S-Class สองคนได้ พวกเขาจะได้รับการยอมรับอย่างมากจากทั้งสาธารณชนและสมาคมฮีโร่
เพราะเหตุนี้ แม้ว่าสมาคมจะประกาศว่าพวกเขาตัดสินอันดับของฮีโร่ตามข้อดีของความสามารถในการต่อสู้; ความสำเร็จในการเอาชนะมอนสเตอร์; การอุทิศตนเพื่อสังคมและความนิยม, ความคิดเชิงลบขององค์กรในการรักษาไว้ซึ่งสมดุลของตำแหน่งและการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อฮีโร่ที่มีอันดับต่ำกว่า S-class ทำให้พวกเขากลายเป็นคนหน้าซื่อใจคดอย่างไม่น่าเชื่อ.
นอกจากนี้หากพิจารณาจากจุดเริ่มต้นของการสร้าง S-Class เพื่อล่าเฟ้นหาฮีโร่ที่มีความสามารถพิเศษและทรงพลังที่สุดท่ามกลางฮีโร่ระดับต่ำ ทางสมาคมอาจเห็นได้ว่าเป็นการขัดต่อหลักการของตนเอง เนื่องจากพวกเขาส่วนใหญ่เพิกเฉยต่อผู้ที่มีพลังมหาศาลอย่างไซตามะเกือบตลอดเวลา ถึงแม้ว่าไซตามะจะแสดงความแข็งแกร่งที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้หลายครั้งหลายครั้ง รวมถึงความพากเพียรของฮีโร่ระดับต่ำหลายคน. ที่น่าแปลกคือ การเพิกเฉยต่อพลังของไซตามะแต่กลับไปบรรจุคิงลงในฮีโร่ S-Class แม้ว่าแท้จริงแล้วคิงไม่พลังซะด้วยซ้ำ.
ไม่ว่ากรณีใด สมาคมส่วนใหญ่ก็ไม่อาจทราบถึงพลังดุจเทพเจ้าของไซตามะได้ และปัจจัยที่ทำให้อันดับของฮีโร่ยังสมดุลเช่นนี้ ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมนีโอฮีโร่ต่อต้านพวกเขาเพราะคิดว่ามันไม่ยุติธรรมต่อฮีโร่
การถูกวิพากษ์วิจารณ์ของสมาคมฮีโร่
สมาคมฮีโร่มิได้ไม่มีมีข้อบกพร่องอย่างที่บางคนเชื่อ. สาธารณชนใช้บริการของเหล่าฮีโร่อย่างหนักเพื่อต่อสู้กับภยันตรายและหากพวกเขาล้มเหลว ผลที่ตามมาจะเป็นหายนะ. แม้จะมีนักสู้ที่ทรงพลังเป็นพิเศษในอันดับฮีโร่ แต่พวกเขาก็อยู่ในสถานะพลเมืองทั่วไปที่มีศักยภาพเหนือกว่าฮีโร่ เช่น ซุยริวและบอมบ์ และทำให้เกิดคำถามถึงความสามารถของพวกเขาต่อการปกป้องสาธารณะชน. ยิ่งกว่านั้น ความก็ได้มลายหายไปเมื่อมีมอนสเตอร์โจมตีหลายๆเมืองพร้อมกัน การปล่อยฮีโร่ออกมาได้อย่างยืดเยื้อและไม่สามารถป้องกันได้อย่างเหมาะสม.
การแสดงที่เอื้อต่อความนิยมของเหล่าฮีโร่ หรือการลดถอนความนิยมของฮีโร่คนอื่นๆ เนื่องจากระบบการทำงานของระบบจัดดับฮีโร่นี้แล้ว และยังมีการเบียดเบียนลำดับความสำคัญของฮีโร่ และทำให้พวกเขามุ่งเน้นไปที่การรักษาอันดับของพวกเขามากกว่า แทนที่จะทำกิจกรรมของฮีโร่ที่กล้าหาญ.
นี่ยังรวมไปความไม่สมดุลของอำนาจในหมู่เจ้าหน้าที่สมาคมฮีโร่และบริการสาธารณะนั้นดูเหมือนจะเกิดขึ้นกับ McCoy ปฏิเสธที่จะส่งความช่วยเหลือไปต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเว้นแต่ตำรวจจะขอร้อง (มังงะตอนพิเศษเล่ม 7)
หลังจากเอาชนะสมาคมมนุษย์ประหลาด และตามมาด้วยความพ่ายแพ้ของเหล่า S-Class ต่อกาโร่ว์ แม้พวกเขาจะเอาชนะมาได้เช่นกัน ความตึงเครียดจึงถ่าโถมเพิ่มขึ้นระหว่างสาธารณะชนและสมาคมฮีโร่. ผลกระทบนี้เอง จึงให้นีโอ ฮีโร่ สมาคมที่เป็นคู่แข่งถือกำเนิดขึ้น. นอกจากนี้ไซตามะยังได้ทำลายระบบรักษาความปลอดภัยศูนย์ใหญ่สมาคมฮีโร่ และความเสียหายอันเกิดมาจากการทะเลาะกันระหว่างทัตสึมากิกับไซตามะ ความยุ่งเหยิงนี้ยังลามไปจนถึงการค้นพบว่า หน้ากากหวานซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักทางด้านแหล่งสื่อข่าวของสมาคมนั้นเป็นมอนสเตอร์. การวิพากษ์วิจารณ์สมาคมฮีโร่มีแม้กระทั้งภายในด้วยกันเอง. เจ้าหน้าที่สมาคมหลายคนต่างกร่นด่าว่าทัตสึมากิและเมทัลไนท์มีอิสระจะกระทำการใดมากเกินไป และอสุจิทมิฬเชื่อว่าสมาคมนี้อาจต้องล้มสลายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ข้อมูลยิบย่อย
- การทดสอบฮีโร่นั้นไม่มีค่าใช้จ่ายและจะจัดขึ้นแบบสุ่ม
- อันดับ "ความสามารถด้านการต่อสู้" ในตัวฮีโร่แต่ละคนนั้นจะอิงมาจากพลังของพวกเขา. ตัวอย่างเช่น ความสามารถด้านการต่อสู้ของทัตสึมากิ จะอิงมาจากพลังจิตของเธอ แต่ในส่วนของโคตรเหล็กกล้า คุโรปิการิ จะอิงจากพลังทางกายภาพของเขา และสำหรับบางคนที่เป็นจำพวกใช้อาวุธในการต่อสู้ ตย.เช่น จักรพรรดิ์เด็ก, กระบองเหล็ก เหล่านี้จะอิงจากความชำนาญในการใช้อาวุธของพวกเขา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น