S-Class ลำดับที่ 5 : ความสัมพันธ์


 

โบฟอย

โบฟอยและจักรพรรดิ์เป็นฮีโร่เพียงสองคนเท่านั้นที่มั่นใจในความรู้และความแข็งแกร่งของเทคโนโลยีของพวกเาเอง และไม่มีคุณสมบัติและความสามารถเหนือมนุษย์ใดๆ (ไม่นับรวมจักรพรรดิ์ที่มึความสามารถโดยเฉลี่ยเหนือมนุษย์ธรรมดา)

จักรพรรดิ์เป็นหนึ่งในฮีโร่ไม่กี่คนทีปรากฎให้เห็นว่าโบฟอยจะติดต่อด้วย ในขณะที่เขาได้แสดงอารมณ์ฉุนเฉียวหลายต่อหลายครั้งที่จักรพรรดิ์คุ้นเคยและรับมือกับเขาได้ดี. อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเขาดูเหมือนจะเป็นมืออาชีพมากกว่าที่จะสนิทสนมกัน

จักรพรรดิ์เด็กและโบฟอยมีความคิดแตกต่างของกันและกันเนื่องพวกเขามีบุคลิกที่แตกต่างกัน. จักรพรรดิ์เด็กมีด้านที่เป็นอ่อนโยนทำให้เขาคิดถึงความเป็นอยู่ของผู้อื่นในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ในขณะที่โบฟอยจะมุ่งเน้นไปที่วิธีการคำนวณที่เย็นมากขึ้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นโดยไม่มีผลกระทบมากเกินไป. สิ่งนี้เองก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างทั้งสองเมื่อเสนอกลยุทธ์ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่

จักรพรรดิ์ดูเหมือนจะมีความเคารพในตัวโบฟอยในระดับนึง. เมื่อได้ยินว่าเขาจะไม่มีส่วนรู้เห็นในการช่วยเหลือและการสุ่มโจมตีของสมาคมมนุษย์ประหลาด จักรพรรดิ์ตกใจและพยายามโน้มน้าวให้โบฟอยครุ่นคิด แม้ว่าเขาจะพบว่าวิธีการบางอย่างของโบฟอยนั้นมากเกินไปกว่าที่ควรจะเป็น. ดูเหมือนโบฟอยจะให้ระดับความสำคัญกับจักรพรรดิ์เด็กมาก เขาคาดหวังให้จักรพรรดิ์เด็กคิดวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ที่ดีกว่าที่เขาทำและอธิบายเกี่ยวกับความล้มเหลวของจักรพรรดิ์และภัยคุกคามของสมาคมฮีโร่ที่จะเกิดขึ้น

ในอดีตเขาเคยเป็นผู้ช่วยของโบฟอย. แต่หลังจากหลังจากบทสมาคมมนุษย์ประหลาด จักรพรรดิ์เด็กได้สูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจของเขาที่มีต่อโบฟอย และวางแผนที่จะตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโบฟอย

ในช่วงบทนีโอฮีโร่เฉิดฉาย จักรพรรดิ์เด็กสงสัยว่าโบฟอยอยู่เบื้องการปรังแต่งเพิ่มประสิทธิภาพทางไซเบอร์แก่สิ่งมีชีวิตลึกลับโดยไม่ทราบสาเหตุ. ความสงสัยนี้ก็ได้ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อโบฟอยระบุว่าพวกเขาไม่ใช่พันธมิตรกันอีกต่อไปและปฎิเสธความลับใดๆที่เขามี ในขณะที่เปิดเผยว่าเขาได้สอดแนมจักรพรรดิ์เด็กโดยแอบติดตั้งกล้องไว้ในห้องทดลองของจักรพรรดิ์เด็ก

ทัตซึมากิ

แม้ว่าตัวเขาจะเชื่อมั่นในพลังของเธอ จักรพรรดิ์ก็ไม่ชอบในความหยิ่งผยองและทัศนคติที่เอาแต่ใจของทัตซึมากิ แล้วก็การที่ขาดความคิดเชิงกลยุทธ์ เนื่องจากเธอคิดว่าเธอสามารถจัดการสมาคมมนุษย์ประหลาดและมนุษย์มอนสเตอร์กาโรว์ได้ทั้งหมดด้วยตัวของเธอเอง จนถึงขั้นที่ขัดต่อความต้องการของกลุ่มฮีโร่ระดับ S-Class ที่เป็นตัวสนับสนุนในการปฎิบัติการ. ถึงแม้จะดูสภาพภายจากนอก เขาก็ไม่ได้คิดว่าเธอเป็นเด็กแก่แดดมากกว่าจะเป็นผู้ใหญ่. อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเขาจะให้ความเคารพแก่เธอเป็นอย่างมาก เมื่อเขามอบน้ำส้มให้เธอ จากหนึ่งในภาพวาดของอ.ยูซูเกะ มุราตะ. ทัตซึมากิดูเหมือนจะไม่ชอบมันสักเท่าไหร่ แต่เธอก็ไม่ได้รังเกียจที่จะรับมันแต่อย่างใด

คิง

จักรพรรดิ์เด็กดูเหมือนจะเทิดทูนคิงในฐานะที่เขาเป็น"บุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี". ดูเหมือนจะผิดหวังและคิดว่าคิงยังคงเห็นและปฏิบัติกับเขาเหมือนกับเด็ก เมื่อเขารู้ว่าคิงตัดสินใจที่ดำเนินงานโดยไม่ได้รับอนุญาตและที่งแผนการของเขาที่จะแทรกซึมเข้าไปในสมาคมมนุษย์ประหลาดและไปยังสถานที่ที่ถูกกำหนดในทันที

จักรพรรดิ์ปราบปลื้มเมื่อเขาทราบว่าในที่สุดคิงก็ได้เข้าร่วมต่อสู้กับสมาชิกผู้บริหารสมาคมมนุษย์ประหลาด. เขามีความมั่นใจอย่างถึงที่สุดในขณะที่เขาอ้างว่าเหล่าฮีโร่จะชนะอย่างแน่นอนโดยที่มีคิงอยู่ในสนามรบ. จักรพรรดิ์เด็กยังคิดแผนที่จะใช่ท่าสังหาร ปืนใหญ่คลื่นระเบิดความร้อนนรกโลกันตร์ ซึ่งเป็นการโจมตีที่จักรพรรดิ์เชื่อว่าคิงสามารถปลดปล่อยออกมาเพื่อทำลายล้างมอนสเตอร์ที่ทรงพลังได้

ซอมบี้แมน

จักรพรรดิ์เด็กนับถือซอมบี้แมนเนื่อจากทัศนคติที่เฉียบแหลมและความอุตสาหะในการต่อสู้ของเขา. สำหรับจักรพรรดิ์แล้ว ซอมบี้แมนเป็นฮีโร่ใน S-Class เพียงคนเดียวที่ดูเป็นคนมีเหตุผล. ความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มพัฒนาขึ้นระหว่างการบุกสมาคมมนุษย์ประหลาด: ตอนที่กำลังต่อสู้อยู่กับฟินิกส์แมน ซอมบี้แมนได้ติดต่วิทยุไปหาจักรพรรดิ์ เพื่อบอกถึงหุ่นยนต์ที่เขาพบและพ่ายแพ้ไปเนื่องจากจุดอ่อนที่จักรพรรดิ์ตั้งสมมติฐานไว้. ซอมบี้แมนยังกล่าวขอบคุณ จักรพรรดิ์แทนทุกคน และบอกกับเด็กน้อยว่าเขาดีใจที่เธอ (จักรพรรดิเด็ก) อยู่ที่นี่ด้วย. คำพูดเหล่านี้ดังก้องอย่างลึกๆภายในใจจักรพรรดิ์และทำให้เขาหลั่งน้ำตาด้วยความซาบซึ้ง และเขาก็ตอบซอมบี้แมนกลับไปว่า เขาหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี. ต้องขอบคุณคำพูดแสดงความขอบคุณนั้น ความมั่นใจของจักรพรรดิ์จึงได้รับการปลุกขึ้นอีกครั้ง และเขาก็ประกาศกร้าวกับฟีนิกซ์แมน ว่าเขาจะทำตามฮีโร่แบบอย่างที่เขาอยากจะเป็น โดยมีเงาของซอมบี้แมนปรากฎขึ้นแสดงให้เห็นหนทางที่จักรพรรดิ์ ได้เริ่มไฝ่หาซอมบี้แมนแป็นแบบอย่าง. เขาถือว่าซอมบี้แมนนั้นเป็นคนที่สามารถแทนที่เขาได้ในฐานะผู้นำ

ไซตามะ

ทั้งสองมีปฏิสัมพันธ์เพียงเล็กน้อยในตอนแรก และพูดคุยกันระหว่างการบุกสมาคมมนุษย์ประหลาดเท่านั้น. ตอนที่ฟีนิกซ์แมนพูดคุยกับจักรพรรดิ์ในมิติของฟีนิกซ์ ไซตามะก็ได้แทรกแซงเข้ามาและพยายามปกป้องจักรพรรดิ์เด็ก. ครั้นเมื่อฟีนิกซ์แมนพ่ายแพ้ ไซตามะเข้ามาหาจักรพรรดิ์เด็กและชมเด็กน้อย โดยบอกว่าเธอช่างเป็นฮีโร่ที่ยิ่งใหญ่เลยน่ะ. จักรพรรดิ์เด็กก็ได้ขอบคุณสำหรับคำพูดเหล่านั้น แต่เมื่อรู้ว่าใครคือไซตามะ ก็เริ่มสงสัยในตัวเขามากขึ้น. ความสงสัยของจักรพรรดิ์ก็ลดลงเมื่อไซตามะเอาชนะ พายุคลั่งวินด์และไฟนรกเฟลมได้อย่าง่ายดาย เมื่อเขารู้ว่าวินด์และเฟลมเป็นอาชญากรระดับ S-Class ทั้งคู่ แม้จักรพรรดิ์จะยังคงระแวงไซตามะและตัดสินใจที่จะไม่บอกอะไรเกี่ยวกับภารกิจที่เขากำลังทำแก่ไซตามะ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น