โบฟอย
โบฟอยและจักรพรรดิ์เป็นฮีโร่เพียงสองคนเท่านั้นที่มั่นใจในความรู้และความแข็งแกร่งของเทคโนโลยีของพวกเาเอง และไม่มีคุณสมบัติและความสามารถเหนือมนุษย์ใดๆ (ไม่นับรวมจักรพรรดิ์ที่มึความสามารถโดยเฉลี่ยเหนือมนุษย์ธรรมดา)จักรพรรดิ์เป็นหนึ่งในฮีโร่ไม่กี่คนทีปรากฎให้เห็นว่าโบฟอยจะติดต่อด้วย ในขณะที่เขาได้แสดงอารมณ์ฉุนเฉียวหลายต่อหลายครั้งที่จักรพรรดิ์คุ้นเคยและรับมือกับเขาได้ดี. อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเขาดูเหมือนจะเป็นมืออาชีพมากกว่าที่จะสนิทสนมกัน
จักรพรรดิ์เด็กและโบฟอยมีความคิดแตกต่างของกันและกันเนื่องพวกเขามีบุคลิกที่แตกต่างกัน. จักรพรรดิ์เด็กมีด้านที่เป็นอ่อนโยนทำให้เขาคิดถึงความเป็นอยู่ของผู้อื่นในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ในขณะที่โบฟอยจะมุ่งเน้นไปที่วิธีการคำนวณที่เย็นมากขึ้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นโดยไม่มีผลกระทบมากเกินไป. สิ่งนี้เองก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างทั้งสองเมื่อเสนอกลยุทธ์ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่
จักรพรรดิ์ดูเหมือนจะมีความเคารพในตัวโบฟอยในระดับนึง. เมื่อได้ยินว่าเขาจะไม่มีส่วนรู้เห็นในการช่วยเหลือและการสุ่มโจมตีของสมาคมมนุษย์ประหลาด จักรพรรดิ์ตกใจและพยายามโน้มน้าวให้โบฟอยครุ่นคิด แม้ว่าเขาจะพบว่าวิธีการบางอย่างของโบฟอยนั้นมากเกินไปกว่าที่ควรจะเป็น. ดูเหมือนโบฟอยจะให้ระดับความสำคัญกับจักรพรรดิ์เด็กมาก เขาคาดหวังให้จักรพรรดิ์เด็กคิดวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ที่ดีกว่าที่เขาทำและอธิบายเกี่ยวกับความล้มเหลวของจักรพรรดิ์และภัยคุกคามของสมาคมฮีโร่ที่จะเกิดขึ้น
จักรพรรดิ์ดูเหมือนจะมีความเคารพในตัวโบฟอยในระดับนึง. เมื่อได้ยินว่าเขาจะไม่มีส่วนรู้เห็นในการช่วยเหลือและการสุ่มโจมตีของสมาคมมนุษย์ประหลาด จักรพรรดิ์ตกใจและพยายามโน้มน้าวให้โบฟอยครุ่นคิด แม้ว่าเขาจะพบว่าวิธีการบางอย่างของโบฟอยนั้นมากเกินไปกว่าที่ควรจะเป็น. ดูเหมือนโบฟอยจะให้ระดับความสำคัญกับจักรพรรดิ์เด็กมาก เขาคาดหวังให้จักรพรรดิ์เด็กคิดวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ที่ดีกว่าที่เขาทำและอธิบายเกี่ยวกับความล้มเหลวของจักรพรรดิ์และภัยคุกคามของสมาคมฮีโร่ที่จะเกิดขึ้น
ในอดีตเขาเคยเป็นผู้ช่วยของโบฟอย. แต่หลังจากหลังจากบทสมาคมมนุษย์ประหลาด จักรพรรดิ์เด็กได้สูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจของเขาที่มีต่อโบฟอย และวางแผนที่จะตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโบฟอย
ในช่วงบทนีโอฮีโร่เฉิดฉาย จักรพรรดิ์เด็กสงสัยว่าโบฟอยอยู่เบื้องการปรังแต่งเพิ่มประสิทธิภาพทางไซเบอร์แก่สิ่งมีชีวิตลึกลับโดยไม่ทราบสาเหตุ. ความสงสัยนี้ก็ได้ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อโบฟอยระบุว่าพวกเขาไม่ใช่พันธมิตรกันอีกต่อไปและปฎิเสธความลับใดๆที่เขามี ในขณะที่เปิดเผยว่าเขาได้สอดแนมจักรพรรดิ์เด็กโดยแอบติดตั้งกล้องไว้ในห้องทดลองของจักรพรรดิ์เด็ก
ทัตซึมากิ
แม้ว่าตัวเขาจะเชื่อมั่นในพลังของเธอ จักรพรรดิ์ก็ไม่ชอบในความหยิ่งผยองและทัศนคติที่เอาแต่ใจของทัตซึมากิ แล้วก็การที่ขาดความคิดเชิงกลยุทธ์ เนื่องจากเธอคิดว่าเธอสามารถจัดการสมาคมมนุษย์ประหลาดและมนุษย์มอนสเตอร์กาโรว์ได้ทั้งหมดด้วยตัวของเธอเอง จนถึงขั้นที่ขัดต่อความต้องการของกลุ่มฮีโร่ระดับ S-Class ที่เป็นตัวสนับสนุนในการปฎิบัติการ. ถึงแม้จะดูสภาพภายจากนอก เขาก็ไม่ได้คิดว่าเธอเป็นเด็กแก่แดดมากกว่าจะเป็นผู้ใหญ่. อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเขาจะให้ความเคารพแก่เธอเป็นอย่างมาก เมื่อเขามอบน้ำส้มให้เธอ จากหนึ่งในภาพวาดของอ.ยูซูเกะ มุราตะ. ทัตซึมากิดูเหมือนจะไม่ชอบมันสักเท่าไหร่ แต่เธอก็ไม่ได้รังเกียจที่จะรับมันแต่อย่างใด
คิง
จักรพรรดิ์เด็กดูเหมือนจะเทิดทูนคิงในฐานะที่เขาเป็น"บุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี". ดูเหมือนจะผิดหวังและคิดว่าคิงยังคงเห็นและปฏิบัติกับเขาเหมือนกับเด็ก เมื่อเขารู้ว่าคิงตัดสินใจที่ดำเนินงานโดยไม่ได้รับอนุญาตและที่งแผนการของเขาที่จะแทรกซึมเข้าไปในสมาคมมนุษย์ประหลาดและไปยังสถานที่ที่ถูกกำหนดในทันทีจักรพรรดิ์ปราบปลื้มเมื่อเขาทราบว่าในที่สุดคิงก็ได้เข้าร่วมต่อสู้กับสมาชิกผู้บริหารสมาคมมนุษย์ประหลาด. เขามีความมั่นใจอย่างถึงที่สุดในขณะที่เขาอ้างว่าเหล่าฮีโร่จะชนะอย่างแน่นอนโดยที่มีคิงอยู่ในสนามรบ. จักรพรรดิ์เด็กยังคิดแผนที่จะใช่ท่าสังหาร ปืนใหญ่คลื่นระเบิดความร้อนนรกโลกันตร์ ซึ่งเป็นการโจมตีที่จักรพรรดิ์เชื่อว่าคิงสามารถปลดปล่อยออกมาเพื่อทำลายล้างมอนสเตอร์ที่ทรงพลังได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น